ในปี 2008 ฤดูใบไม้ผลิ ความฝันของฉันตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย ที่อยากมาศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นได้เป็นจริงแล้ว ฉันได้มาญี่ปุ่นและ เข้าเรียนที่ ECC KCFL
ฉันจบมหาวิทยาลัยเอกภาษาญี่ปุ่นก็จริง แต่การดำเนินชีวิต การศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ไม่ราบรื่นเท่าที่ควร โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาต่อนั้น ฉันกังวลเป็นอย่างมากกับจุดมุ่งหมายที่ต้องการ คิดว่าใครๆก็คงมีประสบการณ์แบบนี้เช่นกัน ตอนนั้น ด้วยความที่ฉันไม่มีความรู้อะไรเลย แต่ได้รับคำแนะนำหลายต่อหลายครั้ง เรื่องการศึกษาต่อ จากอาจารย์ที่ปรึกษา ขอขอบคุณอาจารย์ที่ให้กำลังใจในยามที่ผิดพลาด ท้อแท้ใจ ทุกวันนี้ ฉันคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ โรงเรียนนี้ ไม่ใช่แค่ภาษาญี่ปุ่น แต่คือการที่พยามยามต่อไปเรื่อยๆเพื่อที่จะทำให้ความฝันเป็นจริง และไม่ยอมแพ้ ถอดใจ ต่อความฝันของตัวเอง
ทุกวันนี้ฉันยังนึกถึง ECC KCFL อยู่เสมอ และทำทุกๆวันให้ดีที่สุด

ถ้าพูดถึงโรงเรียน ECC KCFL แล้วนักเรียนภาษาญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะรู้จักความเข้มงวดของโรงเรียนนี้เป็นอย่างดีที่โรงเรียนแห่งนี้จะมีการสอบเก็บคะแนนทุกๆวันหากสอบ ได้คะแนนไม่ดีก็ต้องสอบซ่อมจนกว่าจะผ่าน　นอกจากนั้นการมาเข้าเรียนให้ตรงต่อเวลาก็ถือเป็นเรื่องสำคัญนักเรียนควรมีเหตุผลที่สมควรหากจำเป็นต้องเข้าเรียนสายหรือขาดเรียน แต่ถึงแม้โรงเรียนแห่งนี้จะเข้มงวดเพียงใดคุณครูทุกท่านก็ยังเป็นมิตรและใจดีกับนักเรียนทุกๆคนหากนักเรียนไม่เข้าใจเนื้อหาในบทเรียนใดคุณครูจะอธิบายให้ จนกว่าจะเข้าใจและสิ่งที่สอนก็ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่นเพียงอย่างเดียวยังมีทั้งเรื่องราวต่างๆของญี่ปุ่นวัฒนธรรมและข่าวสารต่างๆของญี่ปุ่น นอกจากนี้คุณครูก็ยังช่วยรับฟังและเป็นที่ปรึกษาปัญหาต่างๆให้กับนักเรียนทุก คนด้วย　สำหรับผมแล้วอาจารย์ก็ช่วยดูแลและเป็นที่ปรึกษาเรื่องการเรียนต่อปริญญาโท และการเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์ให้ผมเป็นอย่างดีครับ　
ณวันนี้ผมได้สอบผ่านและเข้ามาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยวาเซดะเพราะคุณครูที่ เป็นทั้งที่ปรึกษาและคอยให้กำลังใจผมมาตลอด ผมคงไม่มีวันลืมโรงเรียนและเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นที่โรงเรียน ECC KCFL แห่งนี้หากมี โอกาสผมจะกลับไปเยี่ยมและพูดคุยกับคุณครูทุกคนที่โรงเรียนอีกอย่างแน่นอน ครับ

ก่อนที่จะไปเรียนญี่ปุ่น ฉันได้ศึกษาค้นหาข้อมูลมากมาย อย่างแรกก็คือ เมืองที่อยากอยู่ ต่อมาก็โรงเรียน แน่นอนล่ะ เพราะว่าฉันเป็นคนชอบอยู่ในเมือง ก็เลยคิดอยู่ว่าระหว่างโตเกียวกับโอซาก้าจะเลือกที่ไหนดี แต่ถึงแม้จะพูดว่าชอบอยู่ในเมือง แต่ถ้าเมืองนั้นมันวุ่นวายเกินไปก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ที่โอซาก้าก็ถือว่าเป็นเมืองใหญ่ ผู้คนก็ใจดี ภาษาโอซาก้าก็น่าสนใจ แถมยังมีอาหารอร่อยๆเยอะแยะมากมาย คิดว่าไม่ลำบากแน่นอน ก็เลยเลือกเรียนที่โอซาก้าแทน
แล้วทำไมฉันถึงเลือกเรียนที่ ECC KCFL น่ะหรอ เพราะได้ยินมาว่า คะแนนเฉลี่ยของการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นสูงมาก แล้วตอนนั้นก็คิดว่า การสอบผ่านวัดระดับ 1 กับ 2 นั้นยากมาก แล้วจะทำอย่างไรให้สามารถสอบผ่านง่ายๆ สุดท้ายก็เลยเลือกเรียนที่นี่ พอมาถึงที่โอซาก้า ก็มีอาจารย์น่ารักๆมารับ พาไปที่อพาร์ทเมนท์ แล้วก็บอกทางจาก อพาร์ทเมนท์ถึงโรงเรียน รู้สึกอบอุ่น เป็นกันเอง วันที่เปิดเรียน เพราะว่าสอนเป็นภาษาญี่ปุ่นหมดก็เลยรู้สึกกังวลมาก แต่ว่าทั้งๆที่เป็นภาษาญี่ปุ่น แต่อาจารย์ก็สามารถอธิบายให้เข้าใจอย่างง่ายดาย ที่ ECC KCFL จะมีการเทสต์ทุกอาทิตย์ ห้ามมาสาย มีกฎยิบย่อยมากมาย เข้มงวดสุดๆ ก็คิดว่า กะแค่โรงเรียนสอนภาษา ไม่ใช่มหาลัยสักกะหน่อย ทำไมจะต้องมาเข้มงวดอะไรกันมากมาย แต่พอตอนนี้ มาคิดย้อนกลับไป ที่ถูกเข้มงวดก็เพราะให้เราเป็นคนมีความรับผิดชอบ ได้คะแนนดีๆในการสอบวัดระดับ และเพราะว่าอยู่ห่างไกลจากพ่อแม่ ต้องอยู่ต่างบ้านต่างเมืองคนเดียว โรงเรียนก็ต้องการให้เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี
ถึงแม้ว่าจะมีปัญหา อาจารย์ทุกคนก็ให้คำปรึกษาเสมอ ฉันไม่ได้บอกว่า ECC KCFL เป็นโรงเรียนที่เหมาะสำหรับทุกคน แต่สำหรับฉันแล้ว ECC KCFL คืออันดับหนึ่งค่ะ

ดิฉันตัดสินใจเลือกเรียนที่ ECC KCFL เพราะชื่อเสียงด้านการเรียนการสอนที่เข้มงวด
ดิฉันได้เข้าศึกษาที่แผนกภาษาญี่ปุ่นของ ECC KCFL เดือนตุลาคม ปี 2007 โดยเริ่มจากระดับต้นกลาง ในชั้นเรียนดิฉันเป็นคนไทยเพียงคนเดียว แต่เพราะความใจดีและจริงใจจากบรรดาอาจารย์และเพื่อนร่วมชั้น ทำให้ดิฉันเรียนอย่างมีความสุขทุกวัน ดิฉันได้รับความรู้ทั้งภาษาญี่ปุ่น สถานการณ์ปัจจุบันของญี่ปุ่นและความรู้ที่จำเป็นต่าง ๆ ในด้านความเข้มงวดนั้นก็ไม่ผิดหวัง ทุกๆวันจะมีการสอบคันจิและการบ้านให้เราได้ฝึกฝนทบทวน อาจจะเหนื่อยหน่อยแต่นั่นก็ทำให้คนไทยคนนี้สอบวัดระดับความสามารถ ภาษาญี่ปุ่นผ่านระดับ 1 ได้ดังที่ตั้งเป้าไว้
ในช่วงเวลา 2 ปี ดิฉันก็สับสนกับเส้นทางชีวิตตนเองดังเช่นนักเรียนต่างชาติคนอื่นๆ แต่อาจารย์ก็ได้ให้คำปรึกษาอย่างอดทนและเข้าใจ จนดิฉันจบการศึกษาและกลับมาทำงานเป็น　Japanese Coordinator ที่บริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในเมืองไทย จนถึงวันนี้ดิฉันก็ยังไม่เคยรู้สึกว่าตัดสินใจผิดที่เลือกไปเรียนที่ ECC KCFL ค่ะ

ตอนฉันเป็นนักศึกษาได้มีโอกาสมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่โตเกียว พอกลับประเทศไป รู้สึกว่าอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นมากขึ้น ก็เลยค้นหาโรงเรียนต่างๆที่อยู่ในโอซาก้า ตอนนั้น เจอเว็บไซต์ของ ECC KCFL เนื่องจาก ECC KCFL มีหลักสูตรมากมาย ที่ไม่ใช่แค่สอนภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียว เลยคิดว่าคงมีนักเรียนญี่ปุ่นเยอะ หลังจากจบมหาวิทยาลัยที่สวีเดน ก็มาต่อที่ ECC KCFL เลย
ช่วงระยะเวลาหนึ่งปีเรียนจากระดับชั้นต้นไประดับสูง อาจารย์ที่นี่เข้มงวด เพื่อที่จะให้นักเรียนเก่งภาษาญี่ปุ่น แต่ว่าตอนที่มีปัญหากลุ้มใจต่างๆ ก็ได้รับคำปรึกษา ได้รับกำลังใจที่ดีอย่างเสมอมา ในชั่วโมงเรียนนั้นพูดแต่ภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียว ตอนแรกๆคิดว่ายาก แต่พอหลังจากเลิกเรียน ก็กลับไปทบทวนบทเรียน จนสามารถค่อยๆพูดภาษาญี่ปุ่นได้มากเรื่อยๆ
ตอนนี้ฉันแต่งงานและอยู่ที่ญี่ปุ่น ด้วยความกรุณาของอาจารย์ ฉันสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นกับครอบครัวของสามีได้ รู้สึกขอบคุณอย่างมาก รู้สึกดีมากที่เลือก ECC KCFL
ปัจจุบันฉันทำงานฝ่ายธุรการในบริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในเมือง Yao ทุกๆวันนี้ได้ใช้ ภาษาญี่ปุ่นที่เรียนจาก ECC KCFL แม้จะพูดว่าเป็นภาษาญี่ปุ่นก็ตาม แต่ปัจจุบันได้กลายเป็น ภาษาคันไซแล้ว (หัวเราะ) สำหรับผู้ที่อยากมาเรียนภาษาญี่ปุ่น มาเรียนที่ ECC KCFL ให้ได้นะ

ผมมาญี่ปุ่นด้วยความอยากรู้อยากเห็น เคยได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น
ที่ประเทศตัวเอง แต่รู้สึกแค่นี้ไม่เพียงพอเท่าไหร่ จึงต้องมาสัมผัสและเห็นด้วยตัวเอง
ตอนแรกๆที่มาลำบากมากๆ ไม่สามารถสนทนากับคนรอบข้างได้เลย รู้สึกโดดเดี่ยวมาก แต่จากความลำบากทำให้เราคิดได้ว่าต้องพยายามเรียนภาษาญี่ปุ่นและใช้ชีวิตในสังคมญี่ปุ่นอย่างสนุกให้ได้
พอเข้ามาเรียนที่ ECC KCFL ผมรู้สึกสนุกกว่าที่คิดไว้ ได้เพื่อนมากมาย มีความสนิทสนมกับอาจาย์ มีโอกาสที่ได้ใช้ภาษาญี่ปุ่น ได้อภิปรายเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ตั้งแต่ปัญหาเรื่องความรักจนถึงปัญหาสังคม
ประสบการณ์ที่ ECC KCFL นั้นจะไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน การเรียนที่นี่เป็นโอกาสที่ล้ำค่ามาก ขอให้ทุกคน สนุกและสร้างความรู้สึกที่ดีอย่างนี้เช่นกัน